วันพุธที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2557

รับออกแบบสปริงเกอร์ SprinklerHome.com ระบบน้ำอัตโนมัติ สปริงเกอร์อัตโนมัติ เพียง 13,900 บาท

Topic

รับออกแบบสปริงเกอร์ SprinklerHome.com ระบบน้ำอัตโนมัติ สปริงเกอร์อัตโนมัติ www.SprinklerHome.com เพียง 13,900 บาท

Detail

รับทำระบบสปริงเกอร์, สปริงค์เกอร์, sprinkler, รับติดตั้งระบบสปริงเกอร์, ออกเบบระบบรดน้ำสปริงเกอร์, ซ่อมแซมสปริงค์เกอร์, จำหน่ายตู้คอลโทรลสปริงเกอร์, รับประกอบตู้คอลโทรลสปริงเกอร์, ไทม์เมอร์ควบคุมระบบสปริงเกอร์, ติดตั้งระบบสปริงเกอร์อัตโนมัติ, หัวสปริงเกอร์
สปริงเกอร์ sprinklerhome
สปริงเกอร์ sprinklerhome สปริงเกอร์ sprinklerhome สปริงเกอร์ sprinklerhome สปริงเกอร์ sprinklerhome สปริงเกอร์ sprinklerhome สปริงเกอร์ sprinklerhome
สปริงเกอร์ sprinklerhome สปริงเกอร์ sprinklerhome สปริงเกอร์ sprinklerhome
บริการ (Services)เราเป็นผู้ออกแบบและติดตั้งระบบน้ำอัตโนมัติ สปริงเกอร์รดน้ำต้นไม้ (Sprinkler Timers) ทั้งบ้านเดี่ยว สวนหย่อม สวนสาธารณะ โครงการหมู่บ้าน
ของทั้งรัฐบาลและเอกชน เรามีพร้อมที่จะติตตั้งให้ลูกค้าในเขตกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุครปราการ อยุธยา นครนายก
ให้เราช่วยท่าน! แล้วปัญหาเหล่านี้จะหมดไป
  • ไปเที่ยวต่างจังหวัด แต่ไม่มีคนคอยรดน้ำต้นไม้ทำให้ต้นไม้ตาย
  • รดน้ำมากเกินไปก็เปลืองน้ำ หรือ น้อยเกินไปไม่เพียงพอ ทำให้ต้นไม้เป็นสีน้ำตาล
  • เบื่อกับการลากสายยางรดน้ำต้นไม้
  • ติดตั้งสปริงเกอร์แต่ต้องมาคอยเปิด/ปิดทีละวาล์ว
  • ต้องตื่นเช้ากว่าปกติเพื่อมารดน้ำต้นไม้ก่อนออกไปทำงาน จนพักผ่อนไม่เพียงพอ

ติดตั้งเครื่องควบคุมน้ำอัตโนมัติ สำหรับบ้านที่เดินระบบน้ำสปริงเกลอร์เรียบร้อยแล้ว แต่ยังขาดการติดตั้งระบบไฟฟ้าที่เครื่องควบคุม และ โซลินอยด์วาล์ว (Solenoid Valve)
ระบบสปริงเกอร์รอบบ้านเดินสายระบบสปริงเกลอร์รอบบ้าน ด้วยท่อ HDPE (High Density PolythylenE) ที่มีอายุการใช้งานถึง 50 ปี ทำให้หมดกังวลกับน้ำรั่ว น้ำซึม อีกทั้งท่อ HDPE พร้อมทำงานร่วมกับสปริงเกลอร์ทุกชนิด เช่น สปริงเกอร์แบบกระแทก มินิสปริงเกอร์ สปริงเกอร์หมุน สปริงเกอร์แบบป็อบอัพ ฯลฯ
ระบบควบคุมน้ำอัตโนมัติ (ขายดี)แพคเกจนี้เป็นที่นิยมสุดเลยครับ ทั้งติดตั้งเครื่องควบคุมน้ำอัตโนมัติ และ ระบบสปริงเกอร์รอบบ้าน
ตามงบประมาณเราสามารถทำได้ทั้งบ้านที่มีขนาดมากกว่า 100ตร.ว. สวนหย่อม สวนสาธารณะ โครงการบ้าน โรงแรม ขอใบเสนอราคา คลิกที่นี่!
หมายเหตุ* ระบบสปริงเกอร์ต้องจ่ายน้ำในจุดเดียวกัน หรือ จุดที่ใกล้เคียงกันในระยะไม่เกิน 1 เมตร
** สำหรับบ้านพื้นที่ประมาณ 50 ตร.ว. ที่มีมอเตอร์ปั้มน้ำ และระบบไฟฟ้าที่ควบคุมการทำงานของปั้มน้ำแล้ว
http://www.sprinklerhome.com/ https://www.facebook.com/sprinklerhome https://www.facebook.com/SprinklerTree http://sprinklerhome.blogspot.com/ http://sprinkler.lnwshop.com/ http://xn--l3ccaob2cj6frbdf5a1psduc.blogspot.com/ http://xn--m3cakbca6ck7g0apdh9a3q3d0c.blogspot.com/ http://สปริงเกอร์.blogspot.com/ http://sprinklertree.blogspot.com/ http://thaisprinkler.blogspot.com/ http://spinklerhome.wordpress.com/ http://sprinklerhome.wordpress.com
------------------------------------------------------------------------------------------------------
รับโปรโมทเว็บไซต์โดย www.webUB.com www.SiamwebCity.com
ข้อสอบ แนวข้อสอบ โปรแกรมข้อสอบ www.Exam.in.th ข้อสอบ.ไทย www.Pyayam.com
ขายวิตามิน เครื่องสำอาง กลูต้าไธโอน www.VitaminNice.com

วันพุธที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2557

ประสบการณ์ในการซื้ออุปกรณ์ระบบสปริงเกอร์

ผมออกแบบระบบให้น้ำในสวน โดยใช้หัวฉีดสเปรย์ แบบ 360 องศา อัตราการจ่ายน้ำ 120 ลิตร/ชม. จำนวนประมาณ 350 หัว บนเนื้อที่ 2 ไร่ (แต่ยังปลูกต้นไม้ไม่เต็มพื้นที่ ปลูกไว้เพียง 1.5 ไร่) ในเบื้องต้นได้ออกแบบและกำหนดอุปกรณ์จนครบถ้วนกระบวนการเป็นที่เรียบร้อย โดยเน้นหัวใจสำคัญคือประหยัด
   ต่อมาผมใช้วิธีสอบราคาโดยใช้ชื่อบริษัทส่งใบสอบราคาออกไปราว 15 แห่ง เสนอราคากลับมาประมาณ 8 บริษัท ปรากฏว่ารายการของที่ต้องการส่วนใหญ่เป็นของแบรนด์เนมยี่ห้อดังรายหนึ่ง ที่สมาชิกจะได้ลด 15% แต่บังเอิญผมได้ลองโทรไปติดต่อร้านแถวถนนกิ่งแก้ว ปรากฏว่าเขาลดให้ผมเฉลี่ยประมาณ 20% กว่าๆ เลยตัดสินใจซื้อที่นั่นทั้งหมด หมดเงินไปประมาณ 8,000 บาทครับ ดีใจมากเพราะเดิมทีคิดว่าต้องใช้เงินลงทุนราว 10,000 บาท วันนั้นเอารถเก๋งไปบรรทุกท่อ LDPE ขนาด 25 mm. PN 4 ยาว 200 m. จำนวน 5 ม้วน รถแทบพัง กลับมาบ้านพร้อมอุปกรณ์ต่างๆครบครับ นอนหลับอย่างภาคภูมิใจว่าเราต่อราคาเก่งตามสไตล์พ่อค้า ๕๕๕ ซื้อของไม่ต่อนอนไม่หลับอะไรประมาณนั้น
   พอวันรุ่งขึ้นก็ขับรถเอาของไปสวนที่นครนายก ต้องผ่านร้านค้าวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่มากแห่งหนึ่งย่านรังสิตคลอง 7 เลยแวะเข้าไปซื้อเคเบิ้ลไทร์มาใช้ยึดท่อ, ยึดหัวฉีดมินิสปริงเกอร์กับหลักไม้ไผ่ พอเดินผ่านกลุ่มอุปกรณ์งานสวนของร้าน เลยลองเดินแวบเข้าไปดู ปรากฏว่าของที่ผมซื้อมาก่อนหน้านี้อย่างเช่น หัวฉีดสเปรย์ TP 360 ซื้อมาราคาร้อยละ 35 บาท แต่ที่นั่นยี่ห้อเดียวกันรุ่นเดียวกันขายร้อยละ 28 บาทโดยไม่ต้องต่อราคา
   อุปกรณ์ข้อต่อท่อ PE ราคาถูกมากๆ ผมจดราคาสินค้าตามรายการที่ผมซื้อมา เอามาคำนวณเปรียบเทียบ ปรากฏว่า ถ้าผมมาซื้อที่ร้านนี้ตั้งแต่ต้น ผมจะประหยัดเงินได้อีกประมาณ 1,000 กว่าบาท เสียดายครับ
   อย่างตู้เหล็กกันน้ำมีหลังคาเบอร์ 2 สำหรับติดตั้งเมนไฟฟ้าครับ ร้านที่ขายส่งให้บริษัทผมเป็นประจำเสนอราคามาใบละ 1,280 บาท ไปดูที่ร้านนี้เขาขายแค่ 700 บาท อึ้งเลย คิดว่าที่ซื้อทีแรกก็ถูกสุดๆแล้ว มาเจอที่นี้ น็อคเอ้าท์เลยครับ อีกอย่างนึงคือ ถามสินค้าไปหลายแห่ง ส่วนใหญ่จะมีของให้เราไม่ครบตามรายการ แต่ที่นี่ มีมากเกินบรรยายครับ ไปที่เดียวครบถ้วนจริงๆ เลยอยากแนะนำเพื่อนๆ สมาชิกครับว่าซื้อของที่นี่ถูกจริงๆ
   ผมไม่กล้าเอ่ยชื่อร้านครับ เพราะเกรงว่าจะผิดกติกาข้อหาโฆษณาร้านค้าครับ แต่ถ้าสมาชิกท่านใดอยากทราบ ติดต่อถามทาง PM ได้นะครับ ยินดีเอาประสบการณ์ที่พลาดพลั้งมาเป็นอุทาหรณ์ และเผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อสมาชิกท่านอื่นๆ ครับ



ปล. ผมไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรกับร้านนี้นะครับ เพียงแต่อยากให้สมาชิกได้ทราบแหล่งซื้อของดีราคาถูกโดยไม่ต้องเปลืองน้ำลายต่อราคาให้เหนื่อยครับ แถมมีสิทธิ์เลือกซื้อได้ตามกำลังทรัพย์ หลายรุ่นหลายราคาครับ ตามความพอใจและความเหมาะสม ๕๕๕

ขอบคุณครับ ผมดูและซื้ออุปกรณ์ยี่ห้อซุปเปอร์โปรดักส์เกือบทั้งหมดครับ แต่ไม่รู้ว่าทางซุปเปอร์โปรดักส์เขาทำหลายเกรดรึเปล่านะครับ แต่ที่แน่ๆ คือของแท้และใช้รหัสสินค้า (บาร์โค๊ด) เดียวกันทุกประการครับ
   ส่วนท่อ LDPE นั้นผมซื้อเป็นแบบเกรด B ครับ เกรด A แพงกว่ากันม้วนละ 320 บาทหรือเมตรละ 1.60 บาทครับ เท่ากับว่าเงินที่ประหยัดได้ก็พอที่จะซื้อสายไมโคร PVC เกรด A ได้ 100 เมตรยังเหลือตังค์ทอนอีก 40 บาทครับ ส่วนที่ว่าเกรด A ทนกว่านั้นก็ไม่รู้ว่าทนกว่ามากน้อยแค่ไหน แต่จากการทดสอบการหัก บี้ งอ ดัด ฉีก ดึง ทุกรูปแบบแล้ว แทบไม่ต่างกันเลย แต่สมบัติทางเคมี และสมรรถนะต้องรอดูผลจากการใช้งานครับ (พอดีผมเป็นอาจารย์พิเศษสอนวิชาวัสดุศาสตร์ และเป็นเจ้าของบริษัททำระบบบำบัดน้ำเสียและอุปกรณ์ประหยัดพลังงานไฟฟ้าในโรงงานและอาคารควบคุมครับเลยมีเครื่องไม้เครื่องมือทดสอบค่อนข้างพร้อม) ผมเลยคิดว่าท่อใหญ่เราเอาฝังดินซะหน่อย ช่วยบดบัง UV ซะ มันน่าจะทนได้พอๆกันกับแบบเกรด A ทีเดียว
   เหมือนท่อ PVC น่ะครับ จริงๆทำมาจาก โพลีไวนิล แต่เติมสารคลอไรด์เพื่อช่วยป้องกัน UV ได้ เลยกลายเป็น PVC ถ้าเราอยากให้ทนทานยิ่งขึ้น เราก็ทาสีทับหรือฝังซะ อย่าให้ท่อโดนแดดโดยตรง ท่อมันจะไม่โดน UV ทำลายจนเป็นขุยขาวๆ น่ะครับ แบบที่เราเห็นตามบ้านเราออกซีดๆ ขาวๆ น่ะครับ
   และด้วยเหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้ตัดสินใจซื้อเกรด B ได้ง่ายขึ้น นอกเหนือจากเหตุผลเรื่องราคาแล้วก็คือ ตอนนี้เกรด A ขาดตลาดครับ รอกว่าจะได้ของอย่างเร็วกลางเดือนหน้าโน่น (ธ.ค.)
   ผมกลับไปให้ความสำคัญกับท่อไมโคร PVC ซะมากกว่าครับ เพราะมันต้องกรำแดดกรำฝนตลอด จะเอาท่อไมโคร PE มาใช้เพราะราคาถูก แต่เคยใช้แล้วมันชอบหักหรือบี้ตรงที่เราดัดโค้งครับ เลยซื้อแบบดีๆ มันซะเลยครับ จะได้ไม่ต้องมานั่งซ่อมนั่งเปลี่ยนให้วุ่นวาย ๕๕๕

ปล.ไม่รู้คิดถูกรึเปล่า

ต้องการใช้สปริงเกอร์บิ๊กกัน ยิงให้ได้ระยะ 40 เมตร

ที่ดินผมกว้าง 80 เมตร
ตั้งใจจะวางบิ๊กกันตรงกลางที่ดิน แล้วยิงบิ๊กกันรัศมี 40 เมตร
แล้วตั้งบิ๊กกันไว้ห่างกันประมาณ 70 เมตร
จากแหล่งน้ำจนถึงจุดที่ต้องการยิงบิ๊กกันจุดสุดท้ายห่างกัน 360 เมตร
มีไฟฟ้ามิเตอร์ 5 แอมป์
รบกวนผู้รู้แนะนำเครื่องสูบน้ำ หรือปั้ม
ใช้ระบบไฟฟ้า หรือเครื่องยนต์เบนซิน แบบไหน กี่แรง รุ่นไหน
วิธีไหนดีครับ
ควรเดินท่อแบบไหน
บิ๊กกันขนาดกี่นิ้ว
จุดไกลๆ หน่อย ยิงทีละหัวก็ได้ครับ
แต่อุปกรณ์ไม่สามารถทิ้งไว้ได้ครับ
ต้องเก็บกลับหลังจากให้น้ำอ้อยแล้วครับ
แต่ต้องการเดินท่อไว้ถาวรครับ

====================================

ไฟฟ้า 5 แอมป์ ไม่สามารถหาปั้มแบบไหนมาใช้ได้เลยเหรอครับ

แล้วถ้าเป็นเครื่องเบนซินล่ะครับ กำลังมองรุ่นนี้อยู่ครับ
ราคาประมาณหกพันกว่าบาท

เครื่องสูบน้ำเบนซินแรงดันสูง โคจิม่า (KOJIMA) รุ่น HP-20
- ปั๊มมีเนียมแรงดันสูง 2" ประกอบเครื่องยนต์ โคจิม่า (KOJIMA) ขนาด 6.5 แรงม้า
- ระยะส่งสูงสุด 52 เมตร
- ปริมาณน้ำสูงสุด 467 ลิตรต่อนาที
- สามารถใช้กับมินิสปริงเกอร์ได้ 20-25 หัว
- สามารถใส่ข้อลดที่ทางน้ำออก เพื่อนำไปใช้เป็นปั๊มดับเพลิง

ถามทางบริษัท เขาบอกว่าสามารถยิง Big gun ขนาด 1 1/2 นิ้ว
ที่ตั้งห่างจากเครื่องระยะ 350 เมตรได้
ถ้าได้จริงก็สุดยอดเลยครับ
แต่ถ้าอย่างน้อย ได้ประมาณ 150 เมตร ก็ ok ครับ
ผมอาจหาเครื่องสูบน้ำอีกตัว แล้วใช้วิธีพักน้ำก่อน

ฝากเพื่อนๆ สมาชิกวิจารณ์ถึงความเป็นไปได้หน่อยครับ
หรือหากมีใครเคยทดสอบเครื่องนี้แล้วก็ช่วยนำมาเล่าสู่กันฟังครับ

ผมมองว่า ถ้าเครื่องนี้ ด้วยราคาและประสิทธิภาพ (ถ้าใช้ได้จริง)
จะเป็นประโยชน์กับการเกษตรอย่างมากครับ

====================================

แต่ที่ทราบมา ตัวปั้มมันจะเป็นคนละแบบหรือเปล่าครับ

ปั้มสูบน้ำทั่วๆ ไป จะเป็นแบบส่งน้ำได้ปริมาณมาก แต่ไม่มีแรงดัน
เพราะใบพัดจะมีขนาดใหญ่ ทำให้น้ำสามารถไหลย้อนได้

ส่วนที่มีแรงดันสูงจะมี 2 แบบ
- หลายใบพัด ซึ่งจะมีแรงอัดสูง แต่น้ำน้อย
- ใบพัดเล็กและถี่ ส่งน้ำน้อย แต่มีแรงดัน เพราะน้ำไม่สามารถย้อนได้

ผมเข้าใจว่า ถ้าเราใช้ตัวปั้มแบบนี้แล้ว ก็คือใช้ได้
การกินแรงของเครื่องยนต์ หรือไฟฟ้า คงไม่ต่างกันมาก

เข้าใจผิด หรือเข้าใจถูกครับ
รบกวนเพื่อนๆ ช่วยอธิบายด้วยครับ

refer: http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=75692.0

รบกวนปรึกษาเรื่องระบบน้ำสปริงเกอร์ครับ

คือผมจะติดตั้งสปริงเกอร์ แบ่งโซนใว้แล้ว ขอยกมาโซนเดียวเลยแล้วกันครับ

เจาะบาดาล5นิ้ว จากพื้นถึงระดับน้ำ 15เมตร ท่อเมน32ม.มจากปากบ่อบาดาลยาว54เมตร

ท่อแขนงแยกจากท่อเมนใช้ท่อpe25ม.มยาว65เมตร ติดสปริงเกอร์3ตัวที่ระยะ 12/36/60 เมตร

สปริงเกอร์ ใช้น้ำ12ลิตรต่อนาทีที่แรงดัน4บาร์

สปริงเกอร์ ใช้น้ำ12ลิตรต่อนาทีที่แรงดัน4บาร์ เท่ากับใช้น้ำ  2160ลิตรต่อชั่วโมง

ท่อแขนงpe25ม.ม                     น้ำไหลผ่านใด้        2600ลิตรต่อชั่วโมง

ท่อเมน32ม.ม                          น้ำไหลผ่านใด้        4300ลิตรต่อชั่วโมง

ถ้าใช้  1.ซัมเมิจที่ส่งสูงสุดที่50เมตร  ปริมาณน้ำสูงสุด100ลิตร/นาที(ุ6000ลิตร/ชม.)

ที่คิดใว้ไม่รู้เข้าใจถูกหรือเปล่าคือ ส่งสูงขึ้นมาจากบ่อบาดาลแล้ว 15เมตร เท่ากับจะเหลือแรงดัน 35เมตรเท่ากับ3.5บาร์

สปริงเกอร์ให้น้ำสูงสุดและฉีดไกลสุดที่แรงดัน4บาร์

       2.ซัมเมิจที่ส่งสูงสุดที่ 70เมตร  ปริมาณน้ำสูงสุด100ลิตร/นาที(ุ6000ลิตร/ชม.)

ส่งสูงขึ้นมาจากบ่อบาดาลแล้ว 15เมตร เหลือแรงดัน 55เมตร เท่ากับ5.5บาร์ จะมีปัญหาอะไรกับหัวสปริงเกอร์

ที่ใช้งานสูงสุด4บาร์ กับท่อpeรับแรงดันใด้4บาร์หรือเปล่า

ขอถามครับ 1. ควรใช้ปั๊มซัมเมิจแบบข้อ1หรือข้อ2ครับหรือไม่ควรทั้ง2ตัว

             2. ท่อpeถ้าใช้แรงดันเกินกว่าสเปคท่อมันจะใด้ไหมครับ

มีอะไรแนะนำเพิ่มเติมเลยครับขอบคุณครับ

ป.ล ตอนแรกคิดว่าจะสูบน้ำขึ้นมาพักที่โอ่งก่อนแล้วค่อยส่งจากโอ่งอัดสปริงเกอร์อีกที

ทีนี้มันต้องใช้ปั๊ม2ตัวกับโอ่งอีก ด้วยงบประมาณที่จำกัดเลยเปลี่ยนมาเป็นจากบาดาลอัดสปริงเกอร์เลยครับ

refer: http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=88469.0

การเลือกใช้ปั๊มเพื่ออัดสปริงเกอร์

เรียนถามทุกๆท่านครับ คือผมกำลังจะวางระบบน้ำ อยากสอบถามว่าระหว่างปั๊มชัก 2 นิ้วมอเตอร์ 2แรง กับปั๊มหอยโข่ง 2นิ้ว 1.5แรง แบบไหนดีกว่ากัน รายละเอียดในการใช้งานคือ
1. มีต้นไม้จำนวน 8 แถวๆละ 35 ต้น คูณ 8 เท่ากับ 280 ต้น หรือ จำนวนหัวปริงเกอร์ 280 หัว
2. จะใช้หัวมินิสปริงเกอร์ ของซุปเปอร์โปรดัก รุ่นมินิD สีน้ำเงิน ให้น้ำ 60 ลิตรต่อชั่วโมง และผมกะจะให้แค่ 20ลิตรหรือ 20นาที ต่อครั้ง
3. แต่ละแถวมีความยาวประมาณ 80 เมตร
4. ลักษณะส่งน้ำในแนวราบ
5. แหล่งน้ำมาจากแทงค์น้ำบนดินต่อตรงเข้าปั๊มเลย ปั๊มไม่เสียแรงสูบ
6. ตั้งใจจะแบ่งการให้น้ำเป็นโซนทั้งหมด 4 โซนๆละ 70 ต้น หรือ 70 หัว
7. ผมไม่แน่ใจเรื่องกำลังของปั๊มแต่ละประเภท อันนี้แนะนำได้เลยครับ

หากได้แบบปั๊มที่เหมาะสมแล้ว อยากทราบเรื่องแปลนและขนาดของการเดินท่อเมนด้วยครับ ว่าใช้ขนาดเท่าไหรและจะเดินขนานไปตามแปลงที่แบ่งโซนๆไว้ หรือเดินแค่หัวแปลงแล้วต่อท่อแขนงเข้าแต่ละแถว

ขอบคุณมากๆครับ


มาบอกเพื่อเป็นแนวทางเฉยๆ นะครับ

-ที่ดินผมห่างจากหม้อแปลง single phase หรือ 1 เฟส 2 สาย ประมาณเกือบๆ 800 เมตร

-มีการใช้กระแสไฟค่อนข้าง Maximum load หรือเกือบๆ เต็มพิกัดครับ

-จึงทำให้แรงดันไฟฟ้าที่สวนผมค่อนข้างตก จนบ่อยครั้งที่เปิดดวงไฟ 40 วัตต์(จริงๆ 36 วัตต์หลอดผอม) ติดช้ามากช่วงตอนเย็น (ผมก็เลือกใช้แบบหลอดประหยัดหรือ LED แทนบางส่วน)

-ปั้มน้ำของผมเลือกใช้ขนาดต่ำสุด 1/2 แรงม้า ท่อเมน 1 นิ้ว อัตราการจ่ายน้ำ 100 ลิตร/นาที (WCH-375S ของมิตซูฯ เป็นปั้มของเดิมจากสวนเก่ายกมาใช้งาน ตอนนั้นพื้นที่และต้นไม้น้อยกว่านี้ครับ)

-จ่ายหัวมินิฯ 70 ลิตร/นาที จำนวน 100+ หัว (ในแปลงตอนนี้มีอยู่ประมาณ 100+ ต้นครับ แต่แรงดันมันเกินต้องหรี่ด้วยวาล์วทุกท่อย่อย จึงเหลือเอาไปปล่อยลงแทงค์บางส่วนครับ)

-ผมออกแบบให้ปั้มติดตั้งไว้ตำแหน่งกลางสวนแล้วเดินท่อเมนให้ใหญ่กว่าขนาดท่อของปั้มเป็น 2 นิ้ว {เผื่ออนาคตไว้ด้วยครับ กะว่าจะเปลี่ยนปั้มเป็น 1/2
แรงม้า 1.5 นิ้ว (WCM-375S) อัตราการจ่ายน้ำ 350 ลิตร/นาที //ต้นไม้น่าจะราวๆ 250+ ต้นครับ} แยกออกผ่าตรงกลางแปลงแล้วเดินท่อย่อยเป็น PE20mm.ยาวประมาณ 30-40 ม.
(ท่อเทนบางส่วนที่อยู่ส่วนปลายผมลดขนาดลงเป็น 1.5 นิ้วบางส่วน เพราะอัตราการใช้น้ำน้อยลงครับ)

-การใช้ไฟฟ้าก็เป็นมิเตอร์ 5(15)A (ไฟฟ้าฟรีครับ) เปิดให้น้ำทุกวันเช้าเย็นประมาณวันละ 20 นาที(เช้า 10นาที-เย็น 10 นาที) ด้วย Timer
หวังว่าคงจะพอเป็นแนวทางเพื่อเลือกปั้มได้บ้างนะครับ...



ถ้าไฟตก ลงไปน้อยกว่า160โวลท์ สเตบิไลเซอร์จะไม่ทำงานครับ
ที่ ที่ผมอยู่นี่ บางช่วงตกลงไปถึง140โวลท์เลย
วิธีแก้ของผมก็คือ เอาสเต็ปอัพ แปลงขึ้นมาให้ใกล้เคียง200โวลท์ก่อน
แล้วถึงจ่ายเข้า สเตบิไลเซอร์ เพื่อจ่ายไฟให้อุปกรณ์ที่จำเป็น

ถ้าจะถามว่า ทำไม่ไม่ใช้สเต็ปอัพ แปลงขึ้นมาให้ได้220โวลท์เลย
ปัญหาก็คือเวลาไฟเมนขยับสูงขึ้นมา ถ้าไม่มีใครคอยปรับสเต็ปอัพ ไฟก็จะเกินจนอุปกรณ์ไฟฟ้าเสียหายได้ครับ


refer: http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=95974.0

มาทำสปริงเกอร์แบบภูมิปัญญาไทย

มาทำสปริงเกอร์แบบภูมิปัญญาไทย
)

มาทำสปริงเกอร์ รดน้ำต้นไม้กันเถอะ

หลังจากหมดหน้าฝน เข้าหน้าหนาว หรือหน้าแล้งหว่า งานหนักที่ตามมา ก็คือรดน้ำสนามหญ้า และต้นไม้อื่นๆ ประมาณวันละ 1- 1.5 ชม. ก้เลยคิดว่าไม่ไหวแล้ว เสียเวลามาก แล้วถ้าวันไหนไม่อยู่บ้าน ต้นไม้เฉาแน่

ก็เลยบอกคุณสามี ให้ลองติดตั้ง สปริงเกอร์ จะดีไหมบังเอิญคุณสามีบอกว่าที Global House มีอุปกรณ์พวกนี้ขายเพียบ ราคาไม่แพงด้วย

คุณสามีก็เลย เริ่มวางแผนว่าจะเอาแบบไหน ก็สรุปออกมาว่าเป็นแบบอัตโนมัติดีกว่า เวลาไม่อยู่บ้านหลายวัน ต้นไม้ก็จะยังสดชื่นอยู่

ก่อนอื่นก็ต้องขอออกตัวก่อนค่ะว่า รีวิวนี้ไม่ใช่จากมืออาชีพ แต่เป็นมือสมัครเล่นวิธีการบางอย่างอาจไม่ถูกต้อง การคำณวนต่างๆ ไม่มี เช่นแรงดันน้ำ ขนาดท่อ อัตราการไหลของน้ำ ใช้การเดาล้วนๆ

หวังว่าคงเป็นไอเดียสำหรับสำหรับมือใหม่ให้เอาไปประยุกต์ ใช้ดู หรือใครมีประสบการณ์ ขอให้ติชมด้วยนะ








































จาก: http://topicstock.pantip.com/home/topicstock/2010/12/R10010838/R10010838.html